There is a great mix of modern and ancient here, and we stayed in a traditional Japanese house owned by a local sake-making family reopened as Kyotomachiya (traditional Kyoto-style house).
Gion Kinpyo「祇園金瓢」was a great place to get into the vibe of traditional Japan, the tea room was downstairs by the fireplace, while the bedrooms upstairs had the traditional futon beds on the tatami floor. A japanese wooden ofuro (bath-tub) with small garden view was really cosy. Since this place only accommodates one group of guests at a time, we were pretty lucky to enjoy the privacy and quietness.
มาถึง Kyoto เมืองเก่าแก่แหล่งวัฒนธรรมชั้นสูงของญี่ปุ่นทั้งที เราจึงอยากเรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้เต็มที่ ดังนั้นแทนที่จะมองหาโรงแรมห้าดาว คราวนี้เราเลือกบ้านเก่าสไตล์เกียวโต หรือที่เรียกว่า Kyotomachiya ในย่านที่มีเอกลักษณ์ที่สุดของเกียวโต เป็นที่พักพิงสำหรับสามคืนสุดพิเศษ
Gion Kinpyo 「祇園金瓢」แต่เดิมคือโรงกลั่นสาเกซึ่งเป็นธุรกิจเล็กๆของครอบครัวหนึ่ง ที่ปัจจุบันได้ถูกดัดแปลงมาเป็นบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยว บ้านไม้เก่าสองชั้นที่สร้างขึ้นในยุคเอโดะหลังนี้ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของย่าน Gion ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในนาม protected historic district หรือย่านเก่าแก่ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ ชั้นล่างเป็นล๊อบบี้ที่มีโต๊ะยาวและเตาผิงไฟ เหมาะสำหรับนั่งดื่มชา มีห้องอาบน้ำพร้อมวิวสวนญี่ปุ่นเล็กๆและอ่างอาบน้ำโอฟุโระทำจากไม้ ชั้นบนมีห้องนอนสองห้อง ห้องนอนใหญ่มีขนาดกว้างขวาง พื้นปูด้วยเสื่อตาตามิ มีโต๊ะไม้พร้อมฉากกั้นเป็นภาพวาดลายญี่ปุ่นสวยวิจิตร ที่พอตกตอนกลางคืนจะถูกแทนที่ด้วยฟุตงหรือเบาะนอนญี่ปุ่น การพักที่นี่มีความเป็นส่วนตัวมากเพราะเจ้าของบ้านจะให้ลูกค้าเพียงกลุ่มเดียวเช่าในแต่ละวัน
Once we went out exploring the area I found out that while some streets were pretty unassuming, others were lovely preserved as the traditions want. And it was here that I could hardly walk, there were so many beautiful spots to take pictures, old houses lined along the Shirakawa river, trees changing colors, birds that seemed like posing just for me. Time was flying, and soon my husband reminded me it was time for lunch.
การเดินเล่นชมวิวช่วงสายๆในย่านเมืองเก่าเลียบแม่น้ำ Shirakawa river คือภาพความทรงจำที่สวยงามตราตรึง บริเวณนั้นเต็มไปด้วยบ้านเก่าอายุหลายร้อยปี มีสะพานไม้เล็กๆทอดข้ามแม่น้ำสายเล็กที่มีน้ำไหลเอื่อย นกกระสาบินโฉบไปมาเพื่อจับปลา ใบของต้นไม้ที่มีกิ่งก้านเอนโค้งเรี่ยลงกับคลองนั้นเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงและน้ำตาล เป็นสัญญาณบอกว่าอีกไม่นานจะหลุดโรยไป ถึงแม้จะมีนักท่องเที่ยวเดินถ่ายรูปอยู่ทั่ว แต่เรากลับไม่รู้สึกถึงความเคลื่อนไหวใดๆ ทุกอย่างรอบตัวช่างเงียบสงบ สะกดสายตานิ่งอยู่กับภาพตรงหน้า
In one of the most characteristics streets of Kyoto, Hanamikoji Dōri, there are plenty of lovely places to eat, and the fact they are hidden behind a closed door with just a small Japanese sign outside adds to the feeling of discovery. We visited Mametora 「豆寅 祇園店」, a typical Obanzai eatery, which indicates that most ingredients must be seasonal and locally sourced.
สำหรับอาหารมื้อเที่ยง เราเดินไปยังถนนสาย Hanamikoji Dōri ที่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวในชุดกิโมโน ถนนเส้นนี้เป็นแหล่งร้านอาหาร บาร์ และร้านขายขนมพื้นเมือง ที่ร้าน Mametora 「豆寅 祇園店」เราได้นั่งในห้องเสื่อตาตามิแบบไพรเวท อาหารขึ้นชื่อของร้านนี้มีชื่อเรียกว่า Obanzai การที่จะได้ชื่อว่าโอบันไซนั้น อาหารเซ็ทนั้นๆจะต้องใช้วัตถุดิบท้องถิ่นจากเกียวโตเกินครึ่ง เป็นวัตถุดิบสดใหม่ประจำฤดูกาลโดยใช้ปลาและผักเป็นหลัก โดยมีชิ้นส่วนเหลือทิ้งให้น้อยที่สุด คอนเซ็ปท์ดีงามไหมละคะ? ด้วยความพิถีพิถันในแบบฉบับชาวเกียวโต อาหารเซ็ทนี้จึงทั้งอร่อย ครบหลักโภชนา และยังมีหน้าตาที่สวยงาม
The reason you want to base yourself in Gion is that the magic really comes out at night, when most tourist leaves and the dim lights make this place feel like out of a dream. The whole atmosphere is very quiet, almost as a sign of respect to those traditions. Even the bars or restaurants are almost hidden, it is easy to get lost looking for a place, but that is part of the joy of being here.
Having Japanese friends I was taken to some places I could not have enjoyed alone, and lived experiences that are not available to most tourists. One evening we were taken by my host to a private bar where we enjoyed the company of a Maiko, an apprentice Geisha training to become a Geiko, the higher level of entertainer in Kyoto.
สำหรับเราเวลากลางคืนในย่านกิองนั้นช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน เมื่อความมืดเข้าปกคลุม ร้านรวงและถนนหนทางต่างประดับประดาด้วยโคมไฟ นักท่องเที่ยวเริ่มบางตา นั่นหมายถึงเวลาที่เราจะได้ยลโฉมบรรดาสาวงามเกอิชาที่เริ่มออกมาทำงาน
… และแล้วก็มาถึงคืนสุดพิเศษสำหรับทริป เพราะคืนนี้เรามีนัดกับ Maiko สาวน้อยฝึกหัดเพื่อเป็นเกอิชา!
หลายๆคนอาจไม่รู้ว่าเส้นทางการเป็น Geisha (เกอิชา) หรือ Geiko นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย สาวๆเหล่านี้ต้องอุทิศใจกาย เพื่อฝึกฝนภาษาท้องถิ่นของเกียวโต การร้องรำและเล่นเครื่องดนตรี มารยาทในการพูดคุยบนโต๊ะอาหาร รวมถึงการเอนเตอร์เทนเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับบรรดาเหล่าลูกค้า VIP ทั้งยังต้องชำนาญในเรื่องการแต่งหน้า ทำผม และแต่งชุดกิโมโน ซึ่งมีวิธีการแต่งหลายแบบและมีความหมายต่างๆกันไป Geiko จะต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป ดังนั้นเด็กสาวที่เพิ่งเริ่มฝึกหัดเป็นเกอิชาและมีอายุ 15-20 ปี เรียกได้ว่าผู้ที่ประสบการณ์ยังน้อย จะมีชื่อเรียกต่างหากว่า “Maiko”
Kyoto is trying hard to maintain this tradition that is sadly fading in many parts of Japan, and only a couple hundred Geiko and Maiko are left. Experts in traditional art, music and entertainment, they go through rigid selection process and have to learn the local dialect before being able to entertain guests.
You will not find them online, and nobody will advertise their services, it is reserved for a number of people in-the-know, and luckily our friend was one of them and treated us with this unforgettable experience.
สาวน้อย Maiko ที่คุณลุงชาวญี่ปุ่นเชิญมาดื่มกับเรามีอายุเพียง 18 ปี เธอมาถึงในชุดกิโมโนสีเขียวสดลวดลายใบไม้แดงเข้ากับบรรยากาศของฤดูใบไม้ร่วง พวกเราที่ดื่มรออยู่ก่อนแล้วตื่นเต้นกันมากไม่เว้นแม้แต่เพื่อนสาวชาวญี่ปุ่นของเรา ฮิโรโกะและยูกิโกะบอกกับเราว่าการจะนัดเกอิชานั้นไม่ใช่แค่ใครที่มีเงินก็สามารถนัดได้ จะต้องเป็นคนที่อยู่ในแวดวงสังคมที่มีคอนเนคชั่นนี้เท่านั้น จะว่าไปคุณลุงฮิโรเสะของเรานี่ก็ไม่ธรรมดาแฮะ!
ค่ำคืนพิเศษกับสาวน้อย Maiko เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความบันเทิง นอกจากการนั่งดื่ม เล่นเกมส์ และรุมสัมภาษณ์น้องไมโกะแล้ว ทางบาร์ยังจัดห้องที่ชั้นสองให้พวกเราได้ชมรำโชว์ของน้องอีกด้วย คนที่ปลื้มสุดๆคงเป็นคุณสามีล่ะค่ะ มาญี่ปุ่นครั้งแรกก็เจอจัดต้อนรับชุดใหญ่ขนาดนี้ ว่ากันว่าจำนวนของเกอิชานั้นลดน้อยลงไปมาก ปัจจุบันมีเหลืออยู่แค่ประมาณสองร้อยกว่าคน ได้แต่หวังว่าวัฒนธรรมที่สวยงามเช่นนี้จะยังคงสืบต่อไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน ไม่ได้เป็นแค่ตำนานที่เล่าขานกันต่อๆกัน
Tradition of beauty!!! Amazing!! I’ll also be in the area end of this month!!! With have a little adventure!
LikeLiked by 1 person
You’ll love it!!! Enjoy dear xx
LikeLiked by 1 person