Don’t cry for me Argentina
The truth is I never left you
All through my wild days
My mad existence
I kept my promise
Don’t keep your distance
And as for fortune, and as for fame
I never invited them inThough it seemed to the world they were all I desired
They are illusions
They are not the solutions they promised to be
The answer was here all the time
I love you and hope you love me
เกริ่นด้วยเพลงนี้คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก “Evita” หรือ Eva Perón สาวงามผู้ยากไร้จากชนบทที่พลิกหน้าประวัติศาสตร์ของอาร์เจนติน่ากับตำแหน่ง First Lady of Argentina (ภรรยาของประธานาธิบดีคนแรก) ในช่วงระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง เธอได้ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือชนชั้นแรงงาน และยืนหยัดต่อสู้เพื่อสิทธิของสตรีจนในที่สุดได้ผลักดันให้ผู้หญิงมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งได้เป็นผลสำเร็จ น่าเสียดายที่มะเร็งร้ายได้คร่าชีวิตเธอไปในวัยเพียง 33 ปี
เรื่องราวชีวิตที่น่าสนใจของเธอได้ถูกนำมาสร้างเป็นทั้งละครบรอดเวย์ และภาพยนตร์ที่นับได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมากจากการกวาดรายได้มหาศาลทั่วโลกว่ากันว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ชาวอาร์เจนติน่ารักและเทิดทูนมาก งานศพของเธอมีผู้มาร่วมไว้อาลัยเยอะเป็นประวัติการณ์ แต่ขณะเดียวกันก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่เกลียดชังเธอ และมองเธอเป็นเพียงผู้หญิงที่ทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง ใช้ความสวยไต่เต้าเพื่อให้ได้มาซึ่งชีวิตที่หรูหราฟุ่มเฟือย
As the first footstep, we visited Casa Rosada (or the “Pink house”), the main presence on the Plaza de Mayo. It is the office of the President of Argentina, currently being used only as the work place not for residential purpose. Probably the most famous aspect of Casa Rosada is its balcony where Eva Perón addressed adoring crowds: the impressive scene from the movie Evita.
มาเยือนถึงถิ่นบัวโนสไอเรส ปฏิบัติการตามรอยเอวิต้าจึงเริ่มขึ้น ขอกระซิบว่า ก่อนมาเราได้ทำการบ้านเตรียมมาอย่างดี แอบไปขุดหาหนัง Evita มาดูอีกทีเพื่อย้ำเตือนความทรงจำ งานนี้อินเนอร์มาเต็มค่าาา!!
เริ่มจาก Casa Rosada หรือ Pink House อาคารเก่าแก่สีชมพูเข้มตั้งตระหง่านอยู่ที่ลานสแควร์ Plaza de Mayo ปัจจุบันคือที่ทำงานของประธานาธิบดี (ประหนึ่งว่าเป็นตึกทำเนียบขาวเวอร์ชั่นอาร์เจนติน่าค่ะ) ตึกนี้โด่งดังจากเมื่อครั้งที่ Eva Perón ขึ้นมายืนปราศัยบนระเบียงนี้กับมวลมหาประชาชนชาวอาร์เจนติน่า ที่ให้การสนับสนุนเธอและสามีจนนำมาซึ่งชัยชนะในการเลือกตั้ง และอีกฉากเด็ดจากในหนังคือตอนที่เจ๊แม่มาดอนน่าขึ้นมายืนร้องเพลง Don’t cry for me Argentina ก่อนเสียชีวิตนั่นเองค่ะ นาทีที่เรายืนอยู่ตรงลานนั้น มองขึ้นไปที่ระเบียงตึก แล้วจินตนาการถึงฉากสะเทือนอารมณ์นี้ บอกเลยว่ามีแอบขนลุกค่ะ
The body of Eva Perón was buried at Recoleta Cemetery with her other Duarte family members. Due to political instability, it took nearly twenty years before her body finally could be returned to the Duarte family mausoleum. Remarkably it was the only grave where we saw a pile of flower bouquets.
The Recoleta cemetery is the labyrinthine city of the dead, with over 6,400 mausoleums, it is where the wealthy and powerful Argentinians are resting for eternity. Apart from Evita’s grave, the well-planned layout and the mix of architectural styles made this graveyard a very intersting place to visit. It is claimed as the number one attraction for tourists in BA.
ที่หมายถัดมาคือสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวแวะมาเยี่ยมชมมากเป็นอันดับหนึ่งของบัวโนสไอเรส ซึ่งก็คือ สุสาน Recoleta Cemetery ที่ที่ครอบครัวชาวอาร์เจนติน่าผู้มีฐานะ อำนาจ และชื่อเสียงในยุคก่อน เลือกให้เป็นสถานที่สุดท้ายสำหรับนอนหลับใหลอย่างสงบไปตลอดกาล สุสานแห่งนี้ประกอบไปด้วยหลุมศพกว่า 6,400 หลุม ซึ่งแต่ละหลุมได้รับการตกแต่งประดับประดาอย่างสวยหรู บางหลุมใช้วัสดุราคาแพงอย่างหินอ่อน บางหลุมสร้างเป็นห้องนอนด้านใน บางหลุมทำเป็นโบสถ์ขนาดย่อมเพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดกับพระเจ้า แล้วแต่ว่าครอบครัวไหนจะมีไอเดียวิจิตรอะไร สุสาน Recoleta จึงนับเป็นสุสานขนาดใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยงานสถาปัตยกรรมชั้นยอดจากทุกยุคทุกสมัย ไหนจะแบบแปลนที่สวยงาม และการดูแลรักษาอย่างดีอีกด้วยแล้ว พูดตามตรงว่าแค่แวะมาดูงานสถาปัตยกรรมก็คุ้มแสนคุ้มแล้วค่ะ โอ่อ่า หรูหรา สวยละลานตาไปหมด เล่นเอาเราเผลอลืมไปชั่วขณะว่ากำลังเดินอยู่ในสุสาน!
ร่างของ Eva Perón ได้ถูกฝังรวมอยู่กับหลุมศพของครอบครัว Duarte ซึ่งคือนามสกุลของพ่อที่เธอใช้แต่กำเนิด ด้วยความวุ่นวายทางการเมืองในขณะนั้น ร่างของเธอได้ถูกย้ายไปเก็บในหลายแห่งเป็นเวลากว่ายี่สิบปี ก่อนที่จะถูกส่งกลับคืนมาบัวโนสไอเรส เพื่อทำพิธีฝังที่สุสาน Recoleta แห่งนี้กับครอบครัวของเธอ แอบร่วมยินดีด้วยจริงๆที่เธอได้กลับสู่มาตุภูมิในท้ายที่สุด
ตอนแรกเราตั้งใจว่าจะเดินหาหลุมศพของเธอด้วยตัวเอง แต่สุสานนี้ใหญ่จริงอะไรจริงค่ะ เดินหาจนตาลายก็ยังไม่เจอ เลยต้องยกธงขาวยอมแพ้ขอแอบถามทางจากนักท่องเที่ยวคนอื่น จังหวะดีที่เดินไปถึงช่วงที่กรุ๊ปทัวร์ใหญ่เพิ่งเดินออกไปและอีกกรุ๊ปกำลังมุ่งหน้ามา เลยอาศัยความไวได้แชะภาพเดี่ยวกับหลุมศพของตระกูล Duarte แบบเอ๊กซ์คลูซีฟ (เห็นในรูปหน้าเก๊กแต่ในใจนี่ยิ้มกว้างได้อีกค่า) เท่าที่สังเกตุ น่าจะเป็นหลุมศพเดียวที่ได้รับการตกแต่งประดับประดาด้วยดอกไม้สด และมีคนนำช่อดอกไม้มาวางเพื่อไว้อาลัย
Museo Evita is a three storey building built in the 20th century, located in the upscale neighbourhood of Palermo Botanico, just 15 minute walk from our hotel. It was named as National Historical Site of Buenos Aires. The museum displayed plenty of material about Evita’s life and works, particularly the social aid programs she instituted and her role in getting women the vote. Nevertheless, her vintage collection of clothes and accessories were equally impressive. Photography is only allowed at the entrance and the Andalusian patio.
ว่ากันว่าหลานสาวของเธอเป็นผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ที่แสดงอัตชีวประวัติ และรวบรวมผลงานต่างๆของ Eva Perón ในนาม Museo Evita แห่งนี้ค่ะ พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ในย่าน Palermo Botanico อยู่ใกล้กับสวนสาธารณะใจกลางเมือง เราเดินไปจากโรงแรมใช้เวลาเพียง 15 นาทีค่ะ วันนั้นเป็นวันฝนพรำและอากาศค่อนข้างหนาว จึงเหมาะกับการท่องเที่ยวในร่ม เดินชมพิพิธภัณฑ์ พอดิบพอดี
ตัวพิพิธภัณฑ์เป็นอาคาร 3 ชั้นที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 20 ซึ่งต่อมาได้รับการบันทึกเป็นปูชนียสถานของเมืองบัวโนสไอเรสอีกด้วยค่ะ ที่เราประทับใจเป็นพิเศษคือลาน Andalusian พื้นที่เปิดโล่งใจกลางบ้าน เป็นมุมพักผ่อนที่ถูกตกแต่งอย่างร่มรื่นด้วยต้นไม้ ดอกไม้ และน้ำพุ เป็นสไตล์ที่ได้รับอิทธิพลมาจากแคว้น Andalusia ทางตอนใต้ของสเปน และอีกอย่างที่เราหลงใหลได้ปลื้มมากคือคอลเลคชั่นเสื้อผ้าและเครื่องประดับวินเทจทั้งหลายแหล่ของเธอ แต่ละชิ้นสวยบาดใจจริงๆค่ะ แอบเสียดายที่เขาไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปด้านใน จึงมีแค่รูปตรงทางเข้าด้านหน้ากับที่ลาน Andalusian ไว้ดูต่างหน้า อ้อ ก่อนกลับได้ลงชื่อในสมุดบันทึกเยี่ยมเป็นภาษาไทยเพื่อเป็นตัวแทนของคนไทยไว้เป็นที่เรียบร้อยค่ะ (ดูยิ่งใหญ่เนอะเป็นตัวแทนประเทศไรงี้ 555)
Even though I knew Evita from the movie, I could have never imagined she has such an influence in Argentina and the admiration from her people that is still so strong today.
เป็นการตามรอยที่สนุกดีค่ะ มีหลากหลายอารมณ์ในหลายๆบรรยากาศ จากที่รับรู้เรื่องราวของเธอเพียงคร่าวๆผ่านแผ่นฟิลม์ พอได้มาเยือน ได้มาสัมผัส ยิ่งรู้สึกถึงพลังอันยิ่งใหญ่จากผู้หญิงคนนี้ เธอยังคงมีอิทธิพลกับชาวอาร์เจนติน่ายุคปัจจุบันไม่น้อยเลยค่ะ เสียงเล็กๆเสียงหนึ่งที่พูดแทนเสียงของมหาชนคือเสียงที่ทรงพลังอย่างแท้จริง