This trip we discovered many landscapes of Oman. From a luxury beach resort, to a cosy dessert tented camp, and a breathtaking mountain hotel. What an incredible country!
แอบนึกไม่ถึงว่าโอมานจะมีภูมิประเทศหลายหลาก ตื่นตา น่าค้นหาขนาดนี้ เราเลยได้ลองเปลี่ยนที่พักเปลี่ยนบรรยากาศหลายแบบ ตั้งแต่โรงแรมสุดหรูริมทะเล เต๊นท์แคมป์กลางทะเลทราย และภูเขาในเมืองชนบท
:: Beach (ทะเล)
Shangri-La Barr Al Jissah Resort and Spa
It was a huge and luxurious five star resort comprising three hotels on a 124 acre land located by the Gulf of Oman. At some point, you even had to drive through a tunnel that will connect to the other side of the hill, that is how big it is. We had a great time there. The beach and the view were impeccable. The pool and the Lazy river were enjoyable. The food and the night ambience were great. Sipping cocktails and smoking shisha while seating by the Gulf, enjoying the nice breeze and the fresh smell of the sea, that was my favourite moment. Too bad I didn’t manage to try the famous Spa.
รีสอร์ทห้าดาวใหญ่ยักษ์เมกะตรอนบนเนื้อที่ขนาด 124 เอเคอร์ ประกอบไปด้วย 3 รีสอร์ทย่อย ตั้งอยู่ที่ริมทะเลอ่าวโอมาน ที่เราอึ้งสุดคือมีอุโมงค์ลอดเขาสำหรับรถวิ่งเพื่อสัญจรระหว่างรีสอร์ทด้วย ใหญ่จริงใหญ่จังยังกะเป็นเมืองย่อมๆ หาดส่วนตัวของโรงแรมก็ทอดยาวไปตามอ่าว วิวทะเลก็สวยมองไม่รู้เบื่อ นอกจากสระว่ายน้ำหลัก มีอีกสระนึงเป็นสระแบบกึ่งสวนสนุกชื่อ Lazy river เราก็แค่นั่งบนห่วงยางปล่อยให้กระแสน้ำแรงซัดพาเราเคลื่อนที่ไป วนไปรอบๆสระ สนุกสนานปนแอดเวนเจอร์นิดๆ เลยเป็นมุมโปรดของพวกเด็กๆ (เราก็ด้วย 555) ส่วนตัวแล้วชอบตอนกลางคืนที่สุด หลังดินเนอร์แวะนั่งจิบค็อกเทลเบาๆริมทะเล ชอบลมเย็นๆที่พัดโชยมากับกลิ่นอ่อนๆของน้ำทะเล ที่บาร์เค้ามีชิชาบริการด้วย มาถึงถิ่นก็ต้องลองน่ะ เห็นเค้าสูบกันทุกโต๊ะ ท่าดูดีนะจริงๆสูบไม่เป็นกะเค้าหรอก เบื้องหลังโพสสวยคือไอค่อกๆแค่กๆควันเข้าคอ (แถมบางทีดูดน้ำขึ้นมาด้วยอี้กกก 555) อย่างเดียวที่พลาดไม่ได้ลองคือสปา เห็นเค้าอวดสรรพคุณว่าดีเลิศ
:: Desert (ทะเลทราย)
1,000 Nights Camp
It was a single night at this one-of-a-kind tented camp in the middle of Wahiba sands. We loved the concept, setting, service offered and wish we could stay longer. Watching the sunset while sitting on the soft sand dunes was an unforgettable memory. From up there you can see the small camp surrounded by golden sand dunes; pretty stunning setting! At night, under the moonlight, they served BBQ with local band playing some instruments I’ve never seen before. I had a good time watching them playing, and the melody was sort of comforting. Next morning, my husband definitely enjoyed the quad ride with his new friends. I walked around surveying the place and tried to be friendly with the camels who only gave me back a big yawn. Must have been too early for them haha
ขับออกจากเมืองหลวง Muscat ไปอีก 3-4 ชม. เราก็มาถึงโรงแรมสุดชิคที่หน้าตาเหมือนเต๊นท์สำหรับแคมป์ปิ้งตั้งอยู่กลางทะเลทราย Wahiba sands พอเก็บของเสร็จมีอูฐสองตัวเดินผ่านมาทักทายที่หน้าเต๊นท์เรา ก่อนที่พนักงานจะมารับไปขึ้นรถโฟร์วีลเพื่อขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตกดินบนเนินทรายสูงใกล้ๆ จากบนนั้นมองลงมาจะเห็นว่าเต๊นท์แคมป์ที่เราอยู่ดูเล็กจิ๋วเดียว และมันถูกล้อมรอบไปด้วยเนินทรายสีทอง ดูเหมือนอยู่ในแอ่งกระทะทะเลทราย พนักงานส่งเครื่องดื่มที่แช่ไว้เย็นเจี๊ยบมาให้ขณะที่เรากำลังนั่งลุ้นรอจังหวะพระอาทิตย์ตก ตอนนั้นทั้งตัวทั้งชุดเต็มไปด้วยทรายเรียบร้อยแล้วค่า ชอบมากเลยทรายนุ่มๆเนี่ยแทบอยากจะลงไปนอนกลิ้งเกลือก ทรายที่ทะเลทรายมันแห้งและเป็นผงละเอียดกว่าที่ทะเล เราว่ามันฟินกว่ามากเลยอ่ะเวลาที่ผิวเราได้สัมผัสเนื้อทราย ตกกลางคืนท่ามกลางหมู่ดาว แขกของโรงแรมก็มานั่งทานบาร์บีคิวด้วยกันที่ลานด้านนอก มีวงดนตรีพื้นเมืองมาเล่นเพลงกล่อมด้วยนะ ได้บรรยากาศการแคมป์ปิ้งจริงๆ เสียดายที่แวะนอนแค่คืนเดียวเพราะเป็นทางผ่าน ชอบคอนเซปท์ของที่นี่มากๆ เหมือนได้นอนเต๊นท์กลางทะเลทรายแบบที่เบดูอินอยู่กันจริงๆ เรียบง่ายแต่สนุกเฮฮา ใกล้ชิดทั้งอูฐทั้งคนท้องถิ่น เช้าถัดมาคุณสามีไปขี่รถ quad เล่นกับเพื่อนใหม่หนุกหนานลืมเมีย เราเลยถือโอกาสเดินสำรวจแคมป์ พยายามจะบิ้วพี่อูฐให้เล่นด้วยแต่พวกนางออกอาการเฉยชา เท่านั้นไม่พอ มาอ้าปากหาวใส่เราอีก ท่าจะเช้าเกินไปละมั้ง สงสัยแบตยังไม่เต็ม 555
:: Mountain (ภูเขา)
Sahab hotel
This hotel is situated 6,575 ft above the sea level on the Jebel Akhdar or the Green mountain. The high altitude gave us a chilly breeze and stupendous hilltop view. The hotel exterior was uniquely built in stone-clad traditional Omani style. There was nothing much in the area, small villages nearby, apparently a rural area. It was our balcony and the pool where we spent most of the time. When the sun is shining it gets very warm so the pool is a real blessing, at night, however, make sure you bring warm clothes as the temperature drops a lot and it is not always possible to dine outdoor.
ที่หมายถัดมาอยู่บนภูเขา Jebel Akhdar หรือ Green mountain กว่าจะไต่ขึ้นไปถึง ทางแคบและวกวนอยู่เหมือนกัน เราว่าขับรถขึ้นมาก็ยากละนะ มาเจอแพะภูเขาบนนั้นไม่รู้นางไต่ขึ้นมากันยังไงจ้าสูงปรี้ดขนาดนี้ จุดที่โรงแรมอยู่คือ 6,575 ฟุตจากระดับน้ำทะเล อากาศเย็นยี่สิบองศา ต่างกับทะเลทรายที่ไปมาตะกี้โดยสิ้นเชิง ตัวโรงแรมสร้างสไตล์พื้นเมืองโอมานโดยการนำก้อนหินมาวางเป็นชั้นๆซ้อนกัน สีทึมๆแต่ก็ดูคลาสสิคดี บริเวณใกล้เคียงมีโรงแรมอีก 2-3 แห่งและหมู่บ้านเล็กๆ นอกนั้นไม่มีอะไรที่เป็นแหล่งเอ็นเตอร์เทนเลยค่ะ เป็นเมืองชนบทเงียบๆธรรมดา เราจึงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่สระว่ายน้ำและระเบียงห้อง วิวจากระเบียงห้องพักดูสวยสบายตา มีสระว่ายน้ำเป็นจุดเด่นท่ามกลางเขาหินผารายล้อม เขามีสระ outdoor แบบน้ำอุ่นให้แช่ด้วยนะคะ ขอเตือนไว้ก่อนว่าตอนกลางคืนอย่าริออกมาด้านนอกเชียว กินข้าวที่ห้องอาหารเสร็จก็รีบเข้าห้องนอนซะ ลมหนาวบนภูเขานี่สะท้านจริงๆ พูดเลย!
Moody Everywhere 