Cappadocia, the valley of Fairy chimneys

The local named those unusually shaped rocks the “Fairy chimneys”. They saw chimneys, I rather see mushrooms! The tuff from a volcanic eruption 30 million years ago has been eroded by wind and water until its shape became so unique that it’s now admired by tourists from all over the world, and recognized by UNESCO as World Heritage site.

หินปล่องไฟ คือหินรูปร่างหน้าตาประหลาด ที่เกิดจากการกัดเซาะของลมและฝนตลอดระยะเวลากว่า 30 ล้านปีนับตั้งแต่ที่ภูเขาไฟระเบิด ผลงานความอัศจรรย์โดยฝีมือธรรมชาติที่ใช้เวลาสร้างสรรค์นานถึง  “สาม-สิบ-ล้าน-ปี” แห่งนี้ กำลังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทุกมุมโลก และได้ถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกของยูเนสโกด้วย ชาวพื้นเมืองเห็นว่าหินแต่ละก้อนนั้นมีรูปร่างคล้าย ‘ปล่องไฟ’ บวกกับความเชื่อว่าเป็นฝีมือสร้างสรรค์ของพระเจ้าเบื้องบน เลยตั้งชื่อซะสวยหรูให้ว่า Fairy chimneys ขอเรียกเป็นภาษาไทยว่า ‘ปล่องไฟแห่งสวรรค์’ ละกัน น่าจะฟังเข้าท่าสุด ส่วนรูปร่างของหินนั้น ก็สุดแล้วแต่ใครจะจินตนาการ เราว่าดูเหมือน ‘เห็ด’ แต่มีไม่น้อยที่มองเห็นเป็นอวัยวะบางชนิดที่คุณก็รู้ว่าอะไร (18+)

img_6265img_6266img_6268img_6269img_6270

At Pasabaglari or Monks valley, you can find a natural masterpiece of rocks: ‘Three-headed fairy chimneys’ It’s huge and looks amazingly weird! Nearby there is a vineyard area, I climbed up the hill for clearer vision, glad I did that and didn’t fall down the slopes.

ปฏิบัติการตะลุยหุบเขาหินปล่องไฟของเรา กินเวลาสองวันเต็ม เริ่มจาก Pasabaglari หรือ Monks valley บริเวณนี้เต็มไปด้วยหินขนาดมหึมา ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาไม่ขาด คือ เจ้า “หิน 3 หัว” ตัวชูโรงของที่นี่ ส่วนที่มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า Monks valley เพราะบ้างก็ว่าหินนั้นมีรูปร่างเหมือน ‘พระ’ (คนที่บอกนี่ท่าทางจะโลกสวยเอามากๆน่ะ) บริเวณใกล้เคียงเป็นไร่องุ่น ถ้าจะให้เห็นวิวชัดๆต้องปีนขึ้นไปดูบนเนิน เดชะบุญที่ใส่รองเท้าผ้าใบเตรียมพร้อมมา เพราะทางขึ้นเนินค่อนข้างชัน ถ้าดอกยาง (รองเท้า) เกาะถนนไม่ดี ต้องมีหกล้มหัวคะมำกันบ้างล่ะ

img_6273img_6271img_6272img_6274

Çavusin: St. John the Baptist church. It’s the biggest Christian cave church in town. This fifth century building is divided  into three rooms, we had fun ducking and jumping around and in between. Sadly, no photos allowed.

ขับต่อมาที่โบสถ์ Çavusin: St.John the Baptist เป็นโบสถ์ถ้ำที่ใหญ่ที่สุดของเมือง สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 5 ต้องจ่ายค่าเข้าชมและห้ามถ่ายรูปด้านในเด็ดขาด จริงจังขนาดมีคนยืนเฝ้าคอยปรามในแต่ละจุดเลยนะ ทางขึ้นเป็นบันไดเหล็กอยู่ด้านนอกโบสถ์ ความกว้างขนาดหนึ่งเลน (ไม่แนะนำให้วิ่งสวนเลนนะคะ) ตัวโบสถ์แบ่งเป็น 3 ห้อง การเดินชมด้านใน ส่วนใหญ่ต้องปีนป่าย ก้มๆเงยๆ มุดไปห้องนู้นห้องนี้เหมือนกำลังเล่นซ่อนแอบ

img_6275img_6298img_6276img_6277

Pigeon valley is located at the outskirt of Uçhisar. It was a Pigeon house or dovecoats carved into the rocks and cliffs. I would recommend if you have time to do a half-day trekking tour in the valley. We opted for a quick lunch with the view instead. In the past decades, Pigeon were used as message carriers and their droppings were used as fertilizer. Obviously, not anymore in this IT generation, nowadays locals seem to keep them as pets.

มาถึง Pigeon valley (หุบเขานกพิราบ) อยู่บริเวณชานเมือง Uçhisar เมื่อก่อนเป็นแหล่งรังใหญ่ของนกพิราบ ว่ากันว่า สมัยก่อนชาวเมืองใช้นกพิราบเพื่อส่งสาร และเอามูลนกมาทำปุ๋ย แต่ในยุคปัจจุบันที่เราแทบจะคุยไลน์กับสิ่งมีชีวิตบนดาวพลูโตได้แล้วนั้น ไม่น่าแปลกใจที่เจ้านกพิราบถูกปลดระวาง กลายเป็นแค่สัตว์เลี้ยงส่งเสียงกุ๊กกูตามบ้าน บริเวณนี้น่าสนใจนะ ถ้าใครมีเวลาแนะนำให้เดิน trekking ใช้เวลาประมาณครึ่งวัน ส่วนเราขอแค่นั่งทานข้าว ชมวิวสวยไปพลางๆก่อน ลองสั่งเนื้อย่างสไตล์พื้นเมือง ได้หน้าตามาแบบนี้ อร่อยใช้ได้เลย ที่เราชอบที่สุดคือน้ำมันมะกอกใส่พริกป่นที่เสิร์ฟมาพร้อมขนมปัง ช่วยบรรเทาความอยากอาหารไทยไปได้โขเลย

img_6284img_6288img_6285img_6289img_6291

Göreme open air museum was the highlight. The villagers life, the underground cities, the Byzantine arts. A unique place full with history.

We stopped for Wine tasting at ‘Turasan’, a well-known local producer in Urgup; you don’t normally come to this country for wine tasting, but Turkey is one of the top producers of grape in the world (not just for wine-making) so there are a few very good ones here.

ที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง คือ Göreme open air museum (พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งโกเรเม่) แหล่งรวมความรู้ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเมืองคัปปาโดเกีย ซึ่งจะได้เห็นทั้งชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมือง เมืองใต้ดินที่ชาวคริสเตียนสร้างไว้เพื่อหลบซ่อนการคุกคามจากชาวโรมัน และศิลปะยุคไบเซนไทน์ที่เป็นเอกลักษณ์

มารู้จากทริปนี้ว่า ประเทศตุรกีคือประเทศที่ส่งออกองุ่นมากเป็นอันดับต้นๆของโลก เลยทำให้อยากลองชิมไวน์ท้องถิ่นดู เราแวะกันที่ Turasan  ผู้ผลิตไวน์เจ้าดังในเมือง Urgup รสชาติไม่เลวนะ เมื่อเทียบกับราคา

img_6294img_6278

Ortahisar is famous for the sunset, although Uçhisar castle was pretty amazing too. After sunset, we wandered around the souvenir shops. I didn’t see many tourists, not so good business I guess. Nevertheless, they were all very friendly and despite the low business not pushy at all.

เขาว่าเมือง Ortahisar มีจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่งดงาม ด้วยจังหวะไม่อำนวย เราจึงเลือกมาดูพระอาทิตย์ตกที่ปราสาทอุชิซาใกล้ๆโรงแรมแทน แต่พูดได้เลยว่าที่นี่ก็สวยไม่แพ้ที่ไหนๆ แถวนั้นมีร้านขายของฝากอยู่สิบกว่าร้าน มีนักท่องเที่ยวเดินบางตา ทว่าสิ่งที่สัมผัสได้คือผู้คนเป็นมิตรมาก ยิ้มแย้ม ใจดี ไม่มียื้อให้ซื้อของเลยสักนิด จุดนี้ประทับใจมากเลยล่ะ ที่แอบขำคือเวลาเดินไปไหนก็มักจะถูกถามว่า “คุณมาจากประเทศอะไร?” เราว่ามันคือคำถาม signature ของคนที่นี่แน่ๆ ชวนให้นึกถึงตอนไปเที่ยวเกาหลีที่มักถูกถามถึงอายุตลอดเวลายังไงยังงั้น

img_6280img_6282img_6296img_6281img_6297img_6295

I still remember it was last year on  the 27th of September. A full moon and blood moon night! We had a romantic dinner at the balcony of the Argos hotel, the biggest name in town. Food and service were excellent; and even better was the view down the valley, with the moon helping with the perfect lighting.

คืนนั้นเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงและพระจันทร์สีเลือด! เมื่อปีที่แล้ว วันที่ 27 กันยายน ยังจำได้แม่น เราจองโต๊ะทานข้าวที่โรงแรม Argos ตรงระเบียงด้านนอกเพื่อชมจันทร์โดยเฉพาะ โรงแรมนี้กินบริเวณกว้าง ถ้ามองจากอีกฝั่งของหน้าผาจะเห็นหน้าตาโรงแรม ประกอบไปด้วยระเบียงเล็กบ้างใหญ่บ้างปะปนเหมือนไม่ตั้งใจออกแบบ แต่ดูแล้วสวยกลมกลืนกันอย่างบอกไม่ถูก เป็นอีกค่ำคืนที่ประทับใจ อาหารดี บริการเยี่ยม แถมบรรยากาศก็โรแมนติกอย่าบอกใครเชียว

 

 

2 comments

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

%d bloggers like this: